ทานหวานอย่างไรให้ไม่อ้วน

บทความทานหวานอย่างไรให้ไม่อ้วน


หลาย ๆ คนที่ต้องการ ลดน้ำหนัก ก็ต้องมีอุปสรรค ที่ทำให้เราต้องผ่านไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการ การออกกำลังกาย และ เรื่องที่แก้ได้ยาก อย่างการติดหวาน ติดขนม จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนลดน้ำหนักได้ยาก แต่ก็มีวิธี ที่สามารถทำให้เรา ลดน้ำหนัก ทั้ง ๆ ที่เราก็ยังทานของหวานได้อยู่

 

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นสายหวาน ก็คงจะมีความกังวล ในเรื่องของ น้ำหนัก และ รูปร่าง จึงทำให้สายหวานหลาย ๆ คนต้องหัน มาออกกำลังกาย และ เลิกทานของหวาน เพราะว่ากลัวว่าหุ่นจะพัง แต่ถึงอย่างไร การลดน้ำ ถ้าจะให้เห็นผล เราต้องลดน้ำหนัก ได้อบากมีความสุข โดยวิธีที่เราจะแนะนำเพื่อน ๆ ให้เพื่อน ๆ สายหวาน สามารถทานของหวาน ได้โดยที่หุ่นยังดีอยู่ จะมีกี่วิธี และ มีวิธีไหนบ้าง ไปดูกัน    

 

 

เทคนิคทานหวานอย่างไรไม่ให้อ้วน

 

1. ทานของหวานหลังมื้ออาหาร

การที่เรา ทานของหวาน ตอนที่ท้องของกำลังว่างนั้น จะทำให้ระดับ น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขค้น อย่างรวดเร็ว และ ร่างกายของเรา ก็จะมีการหลั่งอินซูลิน ออกมาเพื่อรักษา ระดับน้ำตาลในเลือด ให้มีปริมาณ ที่ไม่สูงเกินไป หลังจากนั้น น้ำตาลที่เหลือ อินซูลิน จะเก็บน้ำตาลเอาไว้ ในรูปแบบ พลังงานสำรอง อย่างไขมัน เพราะฉะนั้น การทานของหวาน ตอนที่เราท้องว่าง ก็จะทำให้เรา อ้วน และ โหยของหวาน ได้มากกว่าปกติ การที่เรา ทานของของหวาน หลังมื้ออาหารหลัก ยังมีข้อดีก็คือ ทำให้ทานของหวานได้น้อยลง อีกด้วยครับ

 

2. ทานขนมหวาน

ในช่วงบ่าย เพราะว่า ช่วงบ่าย เป็นช่วง ร่างกายของเรา ได้มีการขยับตัว มากกว่า ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็น การที่เราได้ไปเดินห้าง ถ่ายรูป คิดงาน หรือ ว่าทำงาน ทำให้เราได้มีการใช้ ร่างกาย ด้วยนะครับ

 

3. ทานแต่พอดี

ในการทานขนมหวานนั้น เราก็รู้ ๆ กันอยู่แล้ว่า เป็นอะไรที่ มีน้ำตาลสูง ดังนั้น การที่เรา ทานขนมหวาน เข้าไปเยอะ ๆ จึงส่งผลเสียต่อร่างกาย และ ด้วยหน้าตา ของขนมที่มีสีสัน ดูน่าทาน หลาย ๆ ครั้ง ก็อาจจะทำให้เรา อดใจไม่ได้ ที่จะทาน หากเพื่อน ๆ ที่เป็นสายหวาน อยากจะทานขนมหลาย ๆ อย่าง เราแนะนำว่า ให้เพื่อน ๆ ทาน ชิ้นละ 2 – 3 ช้อนชา พอนะครับ หากมีขนม ไม่กี่ชิ้น ก็อาจจะต้องดู ปริมาณ ในการทานนะครับ

 

4.  ทานขนมหวานด้วยช้อนชา

การที่เรา เราใช้ช้อนชา ในการตักขนมหวาน มีข้อดี ก็คือ ทำให้เรา ทานของวาน ได้ทีละน้อย และทำให้เรา ทานของหวาน ได้ช้าลงอีกด้วย ทำให้ให้รู้สึกว่า เราทานขนมหวาน ได้เยอะขึ้น หากเราใช้ช้อนที่มีขนาดใหญ่ ตักเพียงไม่กี่คำ ขนมที่วางอยู่ตรงหน้า ก็หมดทำให้เรา มีการทานขนม ที่เยอะขึ้น เพราะฉะนั้น เราก็ควรทานขนมหวาน ด้วยช้อนชา นะครับ

 

5. ทานผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำแทนของหวาน

วิธีนี้ เป็นวิธีที่หลาย ๆ คนกำลังทำอยู่ เพราะว่า ผลไม้ก็มีน้ำตาล ไม่ต่างอะไร กับการทานชนมหวาน เพื่อให้เพื่อน ๆ สายหวาน ได้มีหุ่นที่ดี ก็ควรที่จะ เลือกทานผลไม้ ที่มีน้ำตาลต่ำ อย่างกายทานแก้วมังกร ฝรั่ง จะดีกว่านะครับ เพราะผลไม้เหล่าก็มีน้ำตาล ทำใหร่างกายของเรา สดชื่น ได้เหมือนกัน แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ สายหวาน อยากทานผลไม้อย่างอื่น ก็ไม่ควรดูก่อนนะครับ ว่าผลชนิดไหนบ้าง ที่มีน้ำตาลสูง ก็ควรทานแต่เพียงน้อยนะครับ ข้อดีของการทานผลไม้ ก็คือ ผลไม้มีวิตามิน ที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย ทำให้เรา ได้รับทั้งความสดชื่น และ วิตามิน

 

6. งดทานของหวาน ในวันรุ่งขึ้น

การทานของหวาน ถ้าจะให้ดี เราไม่ควรทานติดต่อกัน หลาย ๆ วัน เพราะการที่เรา ทานติดต่อกันหลาย ๆ วันสมองของเรา จะมีความต้องการ น้ำตาลที่มากขึ้น ทำให้ยิ่งทานติดต่อกัน สมองของเรา ก็จะยิ่ง ต้องการของหวานมากขึ้น ทางที่ดี ควรจะทานของหสาน 1 ครั้ง ต่อ 1 สัปดาห์ นะครับ

 

เพื่อน ๆ สายหวานที่อยาก ลดน้ำหนัก แบบที่ ยังทานของหวานได้อยู่ ก็ลองเอา วิธีนี้ ไปใช้ดู นะครับ รับรองว่าเพื่อน ๆ สายหงานทุดคน สามารถ ลดน้ำหนัก ได้อย่างมีความสุข อย่างแน่นอนครับ เพราะการลดน้ำหนัก ให้เห็นผล เราต้องมีความสุข ไม่ใช่ ทรมาน กับการลดน้ำหนัก นะครับ 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 อาหารว่างน้ำตาลต่ำ ทานได้ไม่อ้วน

การทำ IF ( Intermittent Fasting ) เพื่อ ลดน้ำหนัก


แท็ค: