Hot Latte ลาเต้ร้อน หอมมัน ดื่มง่าย เอาใจคนรักสุขภาพ

ให้กาแฟเติมเต็มวันธรรมดา ของคุณ ให้พิเศษ ไปอีกแบบ ด้วยเมนู กาแฟ ลาเต้ร้อน จากร้านอาหาร เพื่อสุขภาพยอดนิยม โดย Kleens STATION ด้วยรสชาติ ที่มีส่วมผสม ของนม มากกว่ากาแฟ ทำให้ลาเต้ กลายเป็นเมนู ที่เหมาะ กับ วันที่อยากดื่มกาแฟ รสไม่หนักมาก จุดเด่น อีกอย่าง ของลาเต้ ที่ต้องนึกถึง อีกหนึ่ง อย่างนั่น ก็คือ ลวดลายที่ถูกวาดขึ้น จากฟองนม ให้เป็นรูป ต่าง ๆ แล้วแต่ การรังสรรค์ ของ เหล่าบาริสต้า สร้างกิมมิค ความอร่อย และ ความสนุก ไม่น้อยทีเดียว ราคาแก้วละ 70 บาท และ แคลอรี่ ต่อ แก้วเพียง 35 Kcal เท่านั้น 

ลาเต้ร้อน ต่างจากเมนู กาแฟอื่น ๆ อย่างไร?

ลาเต้ร้อน คือ เมนูกาแฟ ที่ไล่ระดับชั้น ระหว่างนม และ กาแฟ บางคน อาจจะเกิด ความสงสัย และ เกิดความสับสน ระหว่างลาเต้ กับ เมนูกาแฟอื่น แต่ลาเต้ร้อน จะต่างกับเมนูกาแฟ อื่น ๆ ตรงที่ลาเต้ร้อน จะใส่นมในปริมาณ ที่ มากกว่า เพื่อลด ความเข้มข้น ของ กาแฟ และ เพิ่มความนุ่ม ละมุน ให้กับ รสชาติ ของ เครื่องดื่ม ลาเต้ จึงเหมาะกับคน ที่ดื่มกาแฟ ไม่เข้ม และ ยังเหมาะ กับ คนที่เพิ่งเริ่ม ดื่มกาแฟ อีกด้วย แต่เนื่องจาก ลาเต้ เป็นกาแฟ ที่ดื่มง่าย จึงเป็น ที่นิยมกันอย่างมาก ทั้งในวัยทำงาน และ วัยเรียน

ประโยชน์ ของ การดื่มลาเต้

1. การดื่มกาแฟ สามารถ ช่วยลดอาการปวดหัวได้

ปัจจุบัน มียาแก้ปวด หลายประเภท มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น (Caffeine) 65 mg เช่น Aspirin, Ibuprofen, Acetaminophen และ บ่อยครั้ง ที่คาเฟอีน ( Caffeine ) ถูกใช้ เป็นยา แก้ปวดหัวโดยเฉพาะ อาการปวดหัว จากไมเกรน โดย สามารถช่วยบรรเทา อาการปวด ได้ถึง 40% เลยทีเดียว

2. การดื่มกาแฟ มีส่วนช่วย ให้สมองตื่นตัว และ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน

เนื่องจาก ในลาเต้ร้อน มีคาเฟอีน ซึ่งสารคาเฟอีน สามารถ ช่วยกระตุ้น กระบวนการ เผาผลาญ พลังงาน ภายในร่างกาย ทำให้รู้สึก กระปรี้ กระเปร่า ลดอาการ อ่อนเพลีย อาการ เหนื่อยล้า อาการง่วงนอน และ ยังทำช่วย ทำให้มีสมาธิ โฟกัสได้มากขึ้น

3. กาแฟ มีปริมาณ สารต้าน อนุมูลอิสระสูง

กาแฟ มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ค่อนข้างสูง ทั้ง วิตามิน B2, B3, B5, แมงกานีส, โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม ซึ่งเป็น สารสำคัญ ที่ช่วยเสริม ระบบภูมิคุ้มกัน ในร่างกาย และ ยังสามารถช่วยลด อาการอักเสบ ในร่างกาย ได้อีกด้วย

4. ป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง

การดื่มกาแฟ อาจช่วย ลดความเสี่ยง ต่อ โรคอัลไซเมอร์ ( Alzheimer's disease ) และ โรคพาร์กินสัน ( Parkinson's disease ) แนะนำ สำหรับผู้ที่เข้าสู่ ช่วงวัย กลางคน ควรดื่ม กาแฟ 4 – 5 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่ม ระดับฮอร์โมน GCSF ซึ่ง เป็นสาร ที่ช่วยลด ความเสี่ยง เป็นโรคอัลไซเมอร์

5. ลดความเสี่ยงโรคตับ 

มีงานวิจัยที่พบว่า การดื่มกาแฟวั นละ 4 แก้วขึ้นไป ความเสี่ยงต่อ การเกิดโรคตับแข็ง ลดลง มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และ บางงานวิจัย ยังบอกอีกว่า สารคาเฟอีน อาจช่วยลด ความเสี่ยง ต่อ โรคมะเร็งตับได้ ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์